สำหรับใครที่กำลังเตรียมตัวจัดกระเป๋าเดินทางไป เที่ยวญี่ปุ่น บางคนอาจจะลืมนึกถึงรื่องที่สำคัญไปว่า การใช้ปลั๊กไฟญี่ปุ่น ใช้หัวชาร์ทเป็นแบบไหนและใช้กระแสไฟเท่าไหร่? เพราะบางคนอาจจะสงสัยว่าอุปกรณ์ที่พกมาจากไทยนั้นจะใช้กับกระแสไฟฟ้าที่ญี่ปุ่นได้มั้ย แน่นอนว่าทุกคนย่อมพกอุปกรณ์ต่างๆ หัวชาร์ทอุปกรณ์ มือถือ หรือไม่ว่าจะกล้องดิจิตอลของสายคอนเทนต์ ของคุณผู้หญิงก็จะมีอุปกรณ์เสริมสวยต่างๆ อย่างที่หนีบผม ที่ม้วนผม ต้องเตรียมตัวยังไงวันนี้ ไกด์เที่ยวญี่ปุ่นส่วนตัว อย่าง Open World Travel ก็มีความรู้มาฝากกัน
ข้อควรรู้กระแสไฟฟ้า ก่อนไปเที่ยวญี่ปุ่น
ที่ญี่ปุ่นใช้กระแสไฟฟ้าเพียงแค่100V (โวลต์) ถือว่าน้อยกว่าบ้านเราครึ่งหนึ่ง เพราะกระแสไฟฟ้าของไทยอยู่ที่ 220V ทำให้อุปกรณ์ต่างๆ ที่นำไปจากไทยอาจจะใช้งานไม่ได้หรือใช้ได้แต่ไม่เต็มที่ ยกตัวอย่างที่หนีบผมก็จะร้อนช้ามาก หรือถ้าหากเราซื้ออุปกรณ์จากญี่ปุ่นกลับมาใช้ที่ไทยก็จะใช้งานไม่ได้ ดีไม่ดีจะทำให้เครื่องช็อตด้วย เพราะกระแสไฟฟ้าที่ไทยนั้นเยอะกว่าที่ญี่ปุ่น เพราะฉะนั้นก่อนไปเที่ยวญี่ปุ่นเราควรที่จะศึกษาก่อนว่ากระแสไฟฟ้าที่ประเทศญี่ปุ่นนั้นเป็นยังไง จะได้ไม่พลาด ชาร์ทแบตได้แบบไม่ต้องกังวล
ปลั๊กไฟญี่ปุ่นเป็นแบบ Type A โดยใช้ชนิดขาคู่หัวแบนๆ

ขาทั้ง 2 ข้างมีขนาดเท่ากัน ถ้าเป็นปลั๊กขาคู่หัวกลมก็ใช้ไม่ได้ ถ้าเป็นหัวแบบอื่นที่มีสามขาเราจำเป็นต้องใช้หัวแปลงปลั๊กไฟให้เป็นหัวแบนในกรณีถ้าอุปกรณ์ที่เอามาจากไทยเป็นแบบขาคู่หัวแบน จะใช้กับปลั๊กที่ญี่ปุ่นต้องเช็คก่อนว่า ต้องดูแรงดันกระแสไฟฟ้าว่าเหมาะสมมั้ย ถ้าระบุว่าใช้ได้ระหว่าง 100V – 240V ก็สามารถเสียบใช้ได้เลย
หัวชาร์ทที่ใช้ในการเที่ยวญี่ปุ่น

ปกติแล้วหัวชาร์จแบตสามารถรองรับไฟได้ทั่วโลก แต่ต้องระวังเรื่องหัวปลั๊ก เพราะบางรุ่นจะเป็นแบบขาคู่หัวกลม จำเป็นต้องใช้หัวแปลงก่อน แต่ถ้าเป็นแบบขาคู่หัวแบน ก็ใช้ได้เลยสำหรับใครที่กังวลการชาร์ทแบตในที่สาธารณะ เวลาเราไปเที่ยวญี่ปุ่น เรามักจะใช้ขนส่งสาธาณะต่างๆ เรื่องปลั๊กไฟญี่ปุ่นในรถไฟชินคันเซ็น รถบัส ก็เป็นหัวแบบ USB มีไว้ให้ชาร์จอุปกรณ์ได้เลย
สำหรับใครที่กังวลการชาร์ทแบตในที่สาธารณะ เวลาเราไปเที่ยวญี่ปุ่น เรามักจะใช้ขนส่งสาธาณะต่างๆ เรื่องปลั๊กไฟญี่ปุ่นในรถไฟชินคันเซ็น รถบัส ก็เป็นหัวแบบ USB มีไว้ให้ชาร์จอุปกรณ์ได้เลย เราสามารถเตรียมไปแต่สายชาร์ทที่เป็นหัว USB แค่นี้การเที่ยวญี่ปุ่นแต่ละทริปก็ง่ายขึ้นแล้ว เอาเป็นว่าถ้าอยากเซฟหน่อยก็เตรียมหัวแบบที่ใช้ได้ทั่วโลกเอาไว้จะดีที่สุด เผื่อบางที่จะมีหัวปลั๊กที่แตกต่างออกไปเราจะได้ไม่ต้องวิ่งวุ่นซื้อใหม่นั่นเอง